•   บทความ ›› วิธีเอาตัวรอดจากยางระเบิด

    วิธีเอาตัวรอดจากยางระเบิด



    เพื่อนๆ ครับ เราไปเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญมาครับ เรื่องมันมีอยู่ว่าล่าสุด เราขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและได้เห็นกับตาว่ารถคันที่ขับอยู่ข้างหน้าอยู่ดีๆ ก็เกิดยางระเบิดครับ เสียงบึ้ม...มดังมาก พร้อมกับเศษยางกระจัดกระจายเต็มถนนไปหมด แล้วรถคันหน้าก็เริ่มส่ายไปมาที่ความเร็วเกือบ 140 ก.ม./ช.ม. โอ...แม่เจ้า คิดวาบในสมองคิดอย่างไวเลยว่าเราต่อประกันรถยนต์แล้วใช่ไหม?

    ส่วนเราก็ตาสว่างแบบไม่ต้องพึ่งกาแฟแล้วครับ รีบเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว เบรกตัวโก่ง แล้วค่อยๆ ชะลอความเร็วของรถเพื่อจอดชิดขอบทางเผื่อรถคันหน้าต้องการความช่วยเหลือ ดีที่เป็นคนขับรถเผื่อระยะจากรถคันหน้าค่อนข้างไกลและช่วงนั้นรถค่อนข้างน้อยเลยไม่เกิดอุบัติเหตุที่น่ากลัวขึ้น แล้วก็ไปช่วยเค้าเปลี่ยนยาง ส่วนรถก็เสียหายเยอะเหมือนกันครับเพราะล้อครูดไปกับถนนค่อนข้างไกล

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้ว่า ทักษะในการเอาตัวรอดเมื่อยางระเบิดนั้นมันจำเป็นมากเลยครับ โรงเรียนสอนขับรถไม่ได้สอนและเรารู้แต่ทฤษฎีเท่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงจะต้องทำไงกันบ้าง เรามาดูรายละเอียดกันครับ

    เทคนิคเอาตัวรอดเมื่อยางระเบิด

    เมื่อเกิดเสียงดังบึ้ม..ม ขึ้นมาพร้อมรถที่กระตุกอย่างรุนแรงนั้น โปรดตั้งสติให้มั่นแล้วทำตามนี้ได้เลยครับ

    1.จับพวงมาลัยรถยนต์ให้มั่น

    เพราะรถจะเสียการทรงตัวไปมา และเราต้องประคองให้รถไม่ปัดไปมาจนไปชนกันรถในเลนส์ข้างเคียง

    2.ยกเท้าออกจากคันเร่ง

    อย่าเหยียบเบรกหรือใช้เบรกมือโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้รถหมุน ค่อยๆ ปล่อยให้ความเร็วของรถค่อยๆ ลดลงในขณะที่เราประคองพวงมาลัยไว้ด้วย

    3.ค่อยๆ แตะเบรกซ้ำๆ เมื่อรถลดความเร็วลงแล้ว

    การเหยียบเบรกซ้ำๆ เบาๆ เพื่อป้องกันรถหมุนครับ ห้ามใช้เบรกมือหรือเหยียบครัชโดยเด็ดขาดเพื่อป้องกันรถหมุนและควคุมไม่ได้ จากนั้นให้เปิดไฟเลี้ยวเพื่อขอทางเอารถจอดข้างทางพร้องมเปลี่ยนเกียร์ต่ำอย่างปลอดภัยในที่สุด

    4.เปลี่ยนยางอะไหล่

    เมื่อเราผ่านวิกฤตยางระเบิดมาได้แล้ว ต่อมาก็สูดหายใจลึกๆ เพื่อให้หายตกใจก่อนเลยครับ แล้วค่อยจัดการเปลี่ยนยางรถยนต์จากยางอะไหล่ที่มีติดรถไว้ เพื่อเดินทางอย่างปลอดภัยต่อไปครับ

    ทำไมยางระเบิดล่ะ?

    สาเหตุของยางระเบิดนั้นน่าจะเกิดจาก 5 สาเหตุนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของเส้นทางและยางรถยนต์ด้วยนะครับ



    1.ยางบวมหรือมีรอยแตกลายงา

    มาเริ่มจากยางรถยนต์ก่อนเลยครับ เมื่อเราขับขี่ไปซักระยะ อาจจะมีการขับไปครูดกับขอบถนนหรือแม้แต่ขอบท่อต่างๆ ทำให้เกิดอาการ “ยางบวม” ขึ้นได้ โดยมากแล้วจะเกิดบริเวณแก้มยาง (ตรงที่มีโลโก้ยี่ห้อยางนั่นล่ะครับ) ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งเป็นบริเวณที่บางที่สุดจนเกิดยางระเบิดขึ้นได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราควรไปสลับยางถ่วงล้อเพื่อจะได้ตรวจสอบไปในตัวไงครับ



    ส่วนการ “แตกลายงาของยางนั้น อาจจะเกิดได้จากทั้งสภาพของยางที่ใกล้หมดอายุเนื่องจากใช้งานมานานหรือยางเปอร์เซ็นต์ที่เราเลือกใช้เป็นยางใกล้ที่หมดอายุนั่นเอง

    2.ลมยางไม่เหมาะสม

    โดยปกติแล้วเราควรเช็คลมยางสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ยกเว้นถ้าเติมลมไนโตรเจนก็จะเป็นเดือนละ 1 ครั้งได้ และสาเหตุที่ทำยางระเบิดนั้นเกิดจากลมยางที่อ่อนเกินไป ซึ่งนอกจากเปลืองน้ำมันแล้ว เวลาที่รถวิ่งเป็นระยะเวลานานๆ จะเกิดความร้อนจนทำให้บริเวณแก้มยางที่บางจุดนั้นฉีกขาดเกิดเป็นยางระเบิดขึ้นได้

    3.บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป

    ข้อนี้ตรงตัวครับ น้ำหนักที่บรรทุกมากจนเกินไปจนยางรับไม่ไหว ยางก็เกิดระเบิดขึ้นได้ ชิ้นส่วนของยางที่เรามักจะเห็นตามถนนนั้น มักเกิดจากยางรถบรรทุกระเบิดครับ ซึ่งล้อรถบรรทุกเป็นแบบล้อคู่ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์นี้ไว้อยู่แล้ว

    4.การใช้ความเร็วมากเกินไป

    ก็ยิ่งขับเร็วความร้อนที่ยางจะสูงตามไปด้วยครับ และเมื่อเกิดยางระเบิดขึ้นที่ความเร็วสูงแล้วล่ะก็การเสียหลักในการควบคุมรถก็จะยิ่งมีมากขึ้นครับ

    5.เหยียบตะปูหรือเรือใบ

    สิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่อยู่บนพื้นถนนนั้น ถ้าเราเกิดทำบุญมาน้อยแล้วดันขับรถไปเหยียบเข้าให้ งานนี้ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ยางจะระเบิด

    ขับรถแล้วยางระเบิดจะเป็นเรื่องอันตรายมากถ้าเราไม่สามารถคุมสติให้อยู่กับตัว ถ้าเราตกใจแล้วบิดพวงมาลัยกระทันหันก็มีสิทธิ์ที่จะชนรถเลนส์ข้างๆ ได้ แล้วถ้าเหยียบเบรกกระทันหันก็จะอาจจะทำให้รถที่วิ่งมาด้านหลังชนเราได้ หรือร้ายไปกว่านั้น รถคว่ำขึ้นมาก็เป็นได้ ทางที่ดีเราความขับรถอย่างมีสติ ใช้อยากที่ดีปลอดภัย และทำประกันรถยนต์ไว้นะครับ

    ข้อมูลจาก


    ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่จริงใจที่สุดในโลก